โซลูชันและกรณีศึกษา

โรงงานผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในสุมาตราตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย

รองรับการจ่ายไฟฟ้าให้ประชาชนประมาณ 420,000 ครัวเรือน

โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพมัวราลาโบห์จ่ายไฟฟ้าให้กับครัวเรือนประมาณ 420,000 หลังคาเรือน

อินโดนีเซียมีแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพมากเป็นอันดับสองของโลก โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพมัวราลาโบห์ (กำลังการผลิตไฟฟ้า 85 เมกะวัตต์ ประเภทแฟลช) ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาของสุมาตราตะวันตกในอินโดนีเซีย ห่างจากสนามบินที่ใกล้ที่สุดโดยรถยนต์ประมาณ 5 ชั่วโมง และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนธันวาคม 2562 ไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ให้บริการแก่ครัวเรือนประมาณ 420,000 หลังคาเรือนในอินโดนีเซีย และจ่ายไปยังพื้นที่ทางตะวันตกทั้งหมดของสุมาตรา

กลุ่มบริษัท Sumitomo Corporation และบริษัทวิศวกรรมท้องถิ่นรายใหญ่ PT Rekayasa Industri (REKIND) ได้ทำสัญญาแบบเบ็ดเสร็จกับ Supreme Energy Muara Laboh (SEML) เพื่อให้บริการด้านวิศวกรรม การจัดหา และการก่อสร้าง (EPC) สำหรับโรงไฟฟ้า ในฐานะผู้รับเหมาช่วงของ Sumitomo Corporation บริษัท Fuji Electric รับผิดชอบด้านวิศวกรรมของโรงงานทั้งหมดและการจัดหาอุปกรณ์หลัก รวมถึงกังหันไอน้ำและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ผลิตในโรงงาน Kawasaki ของเรา และมอเตอร์ไฟฟ้าและระบบควบคุมดิจิทัลแบบบูรณาการ TGR สำหรับกังหันและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ผลิตในโรงงาน Suzuka ของเรา

ส่วนแบ่งกังหันไอน้ำพลังงานความร้อนใต้พิภพในอินโดนีเซีย 50%!
มีส่วนสนับสนุนให้มีการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างแพร่หลายทั่วโลก

พลังงานความร้อนใต้พิภพไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและไม่ปล่อย _CO2 เนื่องจากใช้ไอน้ำจากใต้ดินในการหมุนกังหันและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อผลิตไฟฟ้า ด้วยเหตุนี้ การผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพจึงแพร่หลายไปทั่วโลกเนื่องจากความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้นพร้อมกับภาวะโลกร้อนที่อยู่เบื้องหลัง แม้ว่าอินโดนีเซียจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ในประเทศ รัฐบาลอินโดนีเซียได้ตัดสินใจที่จะเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพทั้งหมดเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและใช้ทรัพยากรความร้อนใต้พิภพที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และได้กำหนดนโยบายที่มุ่งเพิ่มจากประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ (ณ ปี 2019) เป็น 7,200 เมกะวัตต์ภายในปี 2025

บริษัท Fuji Electric ได้ส่งมอบกังหันไอน้ำ 19 เครื่องให้กับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในอินโดนีเซีย ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 50% ในประเทศ จากบันทึกการส่งมอบตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา (ตามการสำรวจภายในบริษัท) บริษัท Fuji Electric มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 40% ของตลาดโลกในสาขานี้ และมีส่วนสนับสนุนการใช้การผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพอย่างแพร่หลายทั่วโลก

รับประกันประสิทธิภาพของโรงงานและการทำงานให้เสร็จตรงเวลา โดยทำได้จากการเอาชนะปัญหาเฉพาะโครงการต่าง ๆ และใช้การออกแบบที่เหมาะสมที่สุด

นี่เป็นโครงการพัฒนาพลังงานความร้อนใต้พิภพโครงการแรกของเราสำหรับ SEML และเรามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้โครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ด้วยดี ในขณะที่สร้างความสัมพันธ์อันดี เราได้ร่วมมือกับ SEML และพันธมิตรของเราอย่าง Sumitomo Corporation และ REKIND เราเอาชนะปัญหาต่างๆ มากมายที่มักเกิดขึ้นกับโครงการนี้ เช่น พื้นที่ห่างไกล การปรับปรุงกระบวนการก่อสร้าง และความยากลำบากในการขนส่งระยะไกล นอกจากนี้ ด้วยการออกแบบโรงไฟฟ้าที่เหมาะสมที่สุดโดยคำนึงถึงเงื่อนไขเฉพาะของไซต์ต่างๆ เราจึงสามารถสร้างโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงได้สำเร็จ ซึ่งเกินความคาดหมายของ SEML โดยรับประกันประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าและกำหนดวันแล้วเสร็จของโรงไฟฟ้า

คุณฮัตโตริและคุณฮอนโดะจากบริษัท ฟูจิ อิเล็คทริค อธิบายโครงการดังกล่าวดังนี้

ฮัตโตริ: นี่เป็นโครงการที่ยากมาก และต้องมีข้อกำหนดที่เข้มงวดจากลูกค้า รวมถึงคำขอจากสมาชิกในทีมของเราสำหรับการปรับปรุงตามประสบการณ์ที่เราได้รับจากโรงงานที่มีอยู่ แต่เราตอบสนองต่อปัญหาเหล่านี้ทุกประการอย่างจริงใจโดยไม่ยอมแพ้ และฉันคิดว่าเราได้สร้างโรงงานที่ลูกค้าพอใจแล้ว

ฮอนโด: ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เราได้มีส่วนสนับสนุนการพัฒนาประเทศอินโดนีเซีย เรามุ่งหวังที่จะขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนต่อไป ซึ่งรวมถึงการผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพ และยังคงมีส่วนสนับสนุนในการสร้างสังคมที่ปลอดภัย มั่นคง และยั่งยืนต่อไป

ฟูจิ อิเล็คทริค จะยังคงพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม และมีส่วนสนับสนุนการใช้งานการผลิตพลังงานความร้อนใต้พิภพอย่างแพร่หลาย

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

หน้าแรก